การใช้รถตัดอ้อยให้ได้ประสิทธิภาพและผลผลิตสูงสุด

การใช้รถตัดอ้อยให้ได้ประสิทธิภาพและผลผลิตสูงสุด

ในปัจจุบัน รถตัดอ้อยราคา เท่าไรขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ และแบรนด์ แต่การใช้รถตัดอ้อยให้ได้ประสิทธิภาพ มีปัจจัยด้านสภาพพื้นที่ แปลงปลูกอ้อยที่เอื้ออำนวยต่อการใช้รถตัดมีความสำคัญมาก จากการศึกษาเรื่องต้นทุนของการเก็บเกี่ยวอ้อย และการวิเคราะห์ความคุ้มค่าในการลงทุนในรถตัดอ้อย เพื่อรับจ้างเชิงพาณิชย์พบว่าปัจจัยที่ เหมาะสมกับการใช้รถตัดอ้อยมีดังนี้

รถตัดอ้อยราคา

สภาพพื้นที่ที่เหมาะสม

  • ในการเก็บเกี่ยวควรจะเป็นพื้นที่ราบ หรืออาจจะเป็นพื้นที่เนินเขาที่มีความลาดเอียงของพื้นที่ไม่เกิน 3% มีการระบายน้ำได้ดี ไม่ควรมีก้อนหิน ตอไม้ และต้นไม้ในแปลงอ้อย เนื่องจากจะเป็นอุปสรรคในการทำงานของรถตัดอ้อยในสภาพพื้นที่ที่มีความลาดเอียงสูงๆ หรือไม่มีการระบายน้ำที่ดีจะทำให้รถตัดอ้อยรถตัดอ้อยในการเก็บเกี่ยวควรจะเป็นพื้นที่ราบ หรืออาจจะเป็นพื้นที่เนินเขาที่มีความลาดเอียงของพื้นที่ไม่เกิน 3% มีการระบายน้ำได้ดี ไม่ควรมีก้อนหิน ตอไม้ และต้นไม้ในแปลงอ้อย เนื่องจากจะเป็นอุปสรรคในการทำงานของรถตัดอ้อยในสภาพพื้นที่ที่มีความลาดเอียงสูงๆ หรือไม่มีการระบายน้ำที่ดีจะทำให้รถตัดอ้อยกับการใช้รถตัดอ้อยในการเก็บเกี่ยวควรจะเป็นพื้นที่ราบ หรืออาจจะเป็นพื้นที่เนินเขาที่มีความลาดเอียงของพื้นที่ไม่เกิน 3%

ขนาดแปลงอ้อย

  • ขนาดแปลงอ้อยที่เหมาะสมกับการใช้รถตัดอ้อยควรเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดของพื้นที่ควรมากกว่า 20 ไร่ขึ้นไป มีความยาวของแถวอ้อยหรือแนวปลูกอ้อยยาวกว่า 100 เมตรขึ้นไป หรือยิ่งยาวมากเท่าไรยิ่งดี เนื่องจากรถตัดอ้อยและรถบรรทุกสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

ถนนหัวแปลงและท้ายแปลงอ้อย

  • ควรมีความกว้างของถนนมากกว่า 3 เมตร เพื่อความสะดวกในการกลับรถ สำหรับแปลงอ้อยที่ไม่มีถนนหัวแปลงและท้ายแปลง จำเป็นต้องให้รถตัดอ้อยทำการเปิดหัวแปลงและท้ายแปลงโดยการตัดอ้อยในแปลงเพื่อให้สามารถกลับหัวรถได้ แต่จะส่งผลให้คือ ตออ้อยบริเวณหัวแปลงและท้ายแปลงถูกรถตัดอ้อยและรถบรรทุกทับเสียหาย อีกทั้งการกลับหัวรถภายในแปลงอ้อยอาจส่งผลต่อความเสียหายของรถตัดอ้อยและรถบรรทุกได้

ถนนข้างแปลงอ้อย

  • เนื่องจากรถตัดอ้อยต้องทำงานควบคู่ไปกับรถบรรทุก จึงควรมีพื้นที่ขนาด 3 เมตรขึ้นไปบริเวณข้างใดข้างหนึ่งสำหรับรถตัดอ้อยและรถบรรทุก เพื่อให้รถทั้ง 2 สามารถทำงานควบคู่กันไปได้ แต่หากไม่มีถนนข้างแปลงรถตัดอ้อย จะต้องตัดอ้อยในแถวแรกหรือร่องแรกแล้วเก็บไว้ในกระพ้อเก็บอ้อย

ระยะห่างระหว่างแถว

  • การใช้รถตัดอ้อยคุณภาพดีควรมีระยะประมาณ 1.5 – 4 เมตร หากระยะห่างระหว่างแถวอ้อยน้อยกว่า 1.4 เมตรจะส่งผลให้อ้อยในแถวถัดไปเกิดความเสียหายจากรถตัดอ้อยแต่ในขณะเดียวกันหากมีระยะห่างระหว่างแถวอ้อยมากกว่า 1.5 เมตร

สันร่องหรือสันแถวอ้อย

  • การใช้รถตัดอ้อยควรมีลักษณะโค้งมน บริเวณยอดสันแบนราบเล็กน้อย มีความสูงของสันร่องประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อให้ใบมีดตัดโคนอ้อยของรถตัดอ้อยสามารถที่จะตัดอ้อยได้ชิดพื้นดินพอดีและส่งผลให้ตออ้อยมีความสม่ำเสมอกับพื้นดิน แต่ในกรณีที่สันร่องมีความสูงมากกว่า 15 เซนติเมตร ส่งผลให้รถตัดอ้อยยกช่องล้อสูงขึ้นและใบมีดตัดโคนอ้อยสัมผัสดินมากเกินไปทำให้ใบมีดตัดโคนอ้อยเกิดการสึกหรอเร็วขึ้น ในทางตรงกันข้ามหากสันร่องมีความสูงต่ำกว่า 15 เซนติเมตรหรือมีสันร่องในระดับเดียวกันกับพื้นดิน ใบมีดตัดโคนอ้อยของรถตัดอ้อยจะไม่สามารถตัดอ้อยได้หมดและหากสันร่องอยู่ต่ำกว่า


Thai-A เรามีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องของเครื่องจักรที่ใช้ในภาคเกษตรกรรมเกี่ยวกับพืช เช่น รถตัดอ้อย ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการทุ่นแรง การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร การเพิ่มคุณภาพ การแปรสภาพผลผลิตเกษตร สนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถตัดอ้อย สามารถสอบถามได้ที่

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร : 02-026-3854

E-mail : webmaster@taecgroup.com

Facebook : thaiagency

Line ID : @thaiagency

Read More
Swing Damper

Swing damper ปากคีบไม้ ดีอย่างไร

Swing Damper ปากคีบไม้ หัวคีบไม้

Swing Damper หรือที่เรียกว่า ระบบลดการสั่นสะเทือน เป็นอุปกรณ์ที่มีเป้าหมายในการควบคุมการสั่นสะเทือน ทำให้ปากคีบไม้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ช่วยให้ปากคีบไม้หรือหัวคีบไม้ ทำการคีบไม้ได้ไวขึ้น และเพิ่มความเสถียรในการคีบไม้ ทำให้การวางตำแหน่งปากคีบแม่นยำขึ้นทำงานได้สะดวกรวดเร็ว ถ้าท่านใดสนใจทางบริษัท Thai-A เรายินดีให้คำปรึกษาและแนะนำโดยทีมงานมืออาชีพ

มีข้อดีของ Swing Damper

1. เพิ่มความเสถียรในการคีบไม้ ทำให้การวางตำแหน่งปากคีบแม่นยำขึ้น


2. ทำให้รถไม่ส่ายไม่แกว่ง เมือคีบไม้ยกไม้


3. ทำให้รถวิ่งได้นิ่งขึ้น ขณะคีบขนย้ายไม้

Swing Damper



4. ยืดอายุการใช้งาน BOOM เพราะลดการสั่นและเหวี่ยงของปากคีบขณะคีบไม้

5. ยึดอายุการใช้งานปากคีบ และกระบอกไฮดรอลิค เพราะจะช่วยไม่ให้ปากคีบแกว่ง กระแทกเสียหาย

Swing Damper


6. คีบไม้ได้ไวขึ้น เนื่องจากปากคีบ นิ่งไม่แกว่ง เพิ่มยอดผลผลิตในการคีบของแต่ละวัน

7. เมื่อต้องคีบไม้เพื่อขนส่งระยะไกล จะทำให้รถนิ่งไม่ส่าย สร้างความมั่นใจให้คนขับ

Swing Damper


บทความที่เกี่ยวข้อง


THAI-A เราเป็นศูนย์รวมเครื่องจักรกลการเกษตร  ผู้ผลิตและจำหน่ายรถคีบไม้  รถคีบอ้อย รถตัดอ้อย รถคีบอเนกประสงค์ และรับผลิตหัวคีบไม้ หัวคีบอ้อย ขนาดอ้ากว้าง 1.2 เมตร , 1.5 เมตร , 1.8 เมตร และ 2 เมตร รวมทั้งอะไหล่รถคี รถเกี่ยวข้าว และอุปกรณ์ไฮดรอลิคเครื่องจักรกลการเกษตรแบบครบวงจร สินค้ามีคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน มีความคล่องตัว ดูแลง่าย ราคาเป็นมิตรกับเกษตรกรไทย 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร : 02-026-3854

Line ID : @thaiagency

E-mail : webmaster@taecgroup.com

Facebook : thaiagency


Read More

SOLAR CELL คืออะไร วิธีเลือกแผงโซล่าเซลล์ให้คุ้มค่าที่สุด

Solar cell

Solar Cell คืออะไร เลือกแผงโซล่าเซลล์ แบบไหนดี ?

Solar Cell เป็นที่นิยมอย่างมากในการลดค่าไฟฟ้าในครัวเรือน และอุตสาหกรรม แต่แผงโซล่าเซล์ไม่ได้มีอยู่แค่ชนิดเดียว แผงโซล่าเซลล์ที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบันนี้ก็คือ แผงโซล่าเซลล์แบบโมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline) และ โพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline) แล้วเราควรเลือกซื้อแผงแบบไหนดี ? และการคำนวณกำลังไฟฟ้าที่เหมาะสมต้องเป็นอย่างไร วันนี้ Thai-A มีคำตอบค่ะ

ก่อนอื่นทำความรู้จัก Solar Cell ในระบบ On-Grid / Off- Grid ที่สรุปมาง่าย ๆ กันก่อน

On-Grid : เป็นระบบผลิตไฟฟ้าที่มีการเชื่อมโยงกับระบบสายส่งของการไฟฟ้า เป็นการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์แล้วส่งผ่านกระแสไฟฟ้าไปยังอินเวอร์เตอร์เพื่อเปลี่ยนไฟฟ้าเป็นกระแสสลับ และเชื่อมโยงกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าฯ

ข้อดี ลดค่าไฟฟ้าได้ดีในตอนกลางวัน และสามารถขายกระแสไฟฟ้าส่งคืนต่อการไฟฟ้าได้ (ในกรณีที่ใช้ไม่หมด) นอกจากนี้ยังไม่ต้องมีระบบสำรองไฟฟ้า หรือแบตเตอรี่ แต่ระบบจะมีการดึงไฟฟ้าจากระบบสายส่งของการไฟฟ้ามาใช้แทนในกรณีที่โซล่าเซลล์ผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ เป็นระบบที่ประหยัดต้นทุน และเหมาะต่อการใช้งานในพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าถึง

ข้อเสีย ต้องมีการขออนุญาติเชื่อมโยงระบบสายส่งไฟฟ้ากับการไฟฟ้า และหน่วยงานของรัฐหลายขั้นตอน

Off-Grid : เป็นระบบผลิตไฟฟ้าแบบปิด ผลิตกระแสไฟฟ้าโดยไม่เกี่ยวข้องกับระบบการไฟฟ้า ไม่มีการเชื่อมโยงระบบสายส่งไฟฟ้า จำเป็นต้องมีระบบสำรองไฟฟ้าเพิ่ม เช่นแบตเตอรี่ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของระบบสูงขึ้น ซึ่งระบบนี้เหมาะสมกับพื้นที่ที่ระบบสายส่งไฟฟ้าเข้าไม่ถึง

ข้อดี ผลิตกระแสไฟฟ้าเองได้และสามารถกักเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ในเวลากลางคืนได้ ไม่ต้องมีระบบสายส่งไฟฟ้ามารองรับ

ข้อเสีย มีราคาสูง เนื่องจากต้องมีระบบสำรองไฟฟ้า หรือแบตเตอรี่เข้ามาสำรองไฟฟ้าให้กับระบบ ทำให้ต้นทุนของระบบสูงขึ้น

Solar cell


1. แผงโซล่าเซลล์แบบ Mono

แผงโซล่าเซลล์แบบโมโนคริสตัลไลน์ ผลิตมาจาก ผลึกซิลิคอนเชิงเดี่ยว (mono-Si) หรืออีกชื่อที่เรียกว่า single crystalline (single-Si) วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมจัตุรัสวางเรียงกันในแนวราบคล้ายการปูกระเบื้อง ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมตัดมุมทั้งสี่มุม และมีสีเข้ม เหมือนกันทุกแผ่นเซลล์ ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นโซล่าเซลล์ชนิดแรกที่ถูกสร้างขึ้น แม้จะมีราคาแพงแต่ก็มีประสิทธิภาพสูงในการส่งพลังงานไฟฟ้า

ข้อดี แผงโซล่าเซลล์แบบโมโนนี้จะมีความไวต่อแสง และมีประสิทธิภาพต่อพื้นที่ติดตั้งมากกว่าแผงแบบโพลี ปัจจุบันสามารถผลิตกำลังไฟฟ้าได้เกินกว่า 600 วัตต์ขึ้นไป ในขณะที่แผงโพลี่ผลิตได้เพียง 360 วัตต์ ต่อขนาดแผงที่เท่ากัน

ข้อเสีย แผงโมโนมีข้อเสียคือเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีแดดร้อนจัด ประสิทธิภาพการทำงานของแผงจะลดลงมากกว่าแผงแบบโพลี และมีราคาสูงกว่า

2. แผงโซล่าเซลล์แบบ Poly

แผงโซล่าเซลล์แบบโพลีคริสตัลไลน์ เป็นแผงโซล่าเซลล์ที่คุณภาพเกือบเทียบเท่าแบบโมโนคริสตัลไลน์ โดยผลิตจากซิลิคอนที่มีการนำมาหลอมละลายและเข้ารูป ด้วยวิธีการผลิตที่ไม่ซับซ้อน รวดเร็ว และมีการใช้ซิลิคอนน้อยกว่า แต่ด้วยวิธีนี้โครงสร้างที่ได้จะมีผลึกที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้แผงโซล่าเซลล์ชนิดโพลีคริสตัลไลน์ จะมีประสิทธิภาพน้อยกว่าในแบบแรก ทั้งหมดนี้จึงส่งผลให้แผงโซล่าเซลล์ชนิดโพลีมีราคาประหยัดกว่าแผงโซล่าเซลล์ชนิดโมโน

ข้อดี มีราคาถูกกว่าแผงโมโน และประสิทธิภาพในขณะทีอุณหภูมิสูงทำได้ดีกว่าแผงโมโน

ข้อเสีย ประสิทธิภาพต่อพื้นที่ต่ำกว่าแผงแบบโมโน สิ้นเปลืองพื้นที่ในการติดตั้งมากกว่าในกำลังการผลิตที่เท่ากัน



เหตุผลทำไมต้องใช้โซล่าเซลล์ของ THAI-A

โซล่าเซลล์หรือเซลล์แสงอาทิตย์ เป็นพลังงานทดแทนประเภทหมุนเวียน ที่ใช้แล้วเกิดขึ้นใหม่ได้ตามธรรมชาติ เป็นพลังงานที่สะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากมลพิษ และโซล่าเซลล์ เป็นพลังงานที่มีศักยภาพสูง สามารถนำมาใช้ทดแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลได้ นอกเหนือจากนี้ยังนำไปใช้งานได้หลากหลาย ผลิตไฟฟ้าได้ทุกขนาดตั้งแต่เล็กจนถึงขนาดใหญ่ และช่วยให้การนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ได้ง่ายขึ้นด้วยพลังงานแสงอาทิตย์

ทำไมต้องใช้ Solar Cell ของไทยเอ

  • มีประสบการณ์ยาวนาน เป็นเจ้าแรกที่ติดตั้งในไทย
  • เทคโนโลยีล้ำสมัย ออกแบบติดตั้งโซล่าเซลล์โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ เน้นความถูกต้องแม่นยำโดยมาตรฐาน มอก.
  • รับประกันงานติดตั้ง 1 ปี พร้อมถ่ายเทเทคโนโลยีและ Maintenance ระบบ
  • ดำเนิดการขออนุมัติการติดตั้งโซล่าเซลล์ผ่านมาตรฐาน PPA กับหน่วยงานราชการ


หลักการทำงานของ Solar Cell

การทำงานของโซล่าเซลล์เป็นกระบวนการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง โดยเมื่อแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและมีพลังงานไปกระทบกับสารกึ่งตัวนำ จะเกิดการถ่ายทอดพลังงานระหว่างกัน พลังงานจากแสงอาทิตย์จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้าขึ้นในสารกึ่งตัวนำ เราจึงสามารถต่อกระแสไฟฟ้าดังกล่าวไปใช้งานได้

ข้อดีของการใช้ โซล่าเซลล์

  • โซล่าเซลล์เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นพลังงานที่ใช้แล้วไม่มีวันหมด
  • โซล่าเซลล์สามารถผลิตไฟฟ้าได้จากทั่วทุกมุมโลก เพียงแค่มีแสงอาทิตย์
  • โซล่าเซลล์เป็นพลังงานสะอาด เพราะได้มาจากพลังงานแสงอาทิตย์โดยตรง
  • โซล่าเซลล์ผลิตไฟฟ้าได้ทุกขนาด ไม่ว่าจะเล็กหรือขนาดใหญ่ ก็สามารถผลิตกระแสไฟฟ้ามาใช้ได้ด้วยการใช้แผ่นโซล่าเซลล์ที่มีลักษณะเหมือนกัน


ขั้นตอนการติดตั้ง Solar Cell

  • เราสำรวจพื้นที่หน้างานด้วยพิกัด GPS
  • ออกแบบวางระบบโซล่าเซลล์ด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อความถูกต้องแม่นยำ
  • คำนวนระบบไฟฟ้าที่ผลิต เพื่อให้ได้กระแสไฟฟ้าสูงสุด
  • เสนอราคาโครงการโซล่าเซลล์
  • ติดตั้งตามระบบ EPC
  • ประกันงานติดตั้ง 1 ปี พร้อมถ่ายเทเทคโนโลยีให้ลูกค้า
  • ออกแบบวางระบบ Maintenance โซล่าเซลล์

ใช้บริการโซล่าเซลล์ Thai-A จะได้อะไรบ้าง

  • ออกแบบและจำลองประสิทธิภาพของระบบโซล่าเซลล์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
  • ดำเนินการขออนุญาตจากราชการอย่างถูกต้อง
  • บริการติดตั้งครบวงจร
  • อุปกรณ์ได้มาตรฐาน คุณภาพสูงตามมาตรฐานของการไฟฟ้าฯ
  • คุ้มค่าแก่การลงทุน ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว



บทความที่เกี่ยวข้อง

เหตุผลที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้แผงโซล่าเซลล์

เหตุผลที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้แผงโซล่าเซลล์ เนื่องจากกระแสการลดโลกร้อน แผงโซล่าเซลล์จึงเริ่มกลายมาเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ผู้ผลิตไฟฟ้าหลายที่ได้เริ่มมีการนำแผงโซล่าเซลล์มาแทนที่การผลิตไฟฟ้าแบบเดิมในอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากกระบวนการผลิต นอกจากนี้ แผงโซล่าเซลล์ยังเป็นที่แพร่หลายในภาคอุตสาหกรรมขนาดเล็กจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แม้กระทั่งการใช้โซล่าเซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าไว้ใช้เองภายในครัวเรือน

เนื่องจากเทคโนโลยีปัจจุบันที่ก้าวกระโดด ทำให้ราคาการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ มีราคาที่ถูกลง และสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน การลงทุนหลักแสนกลาง ๆ จนถึงสองแสน สามารถติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ที่ผลิตไฟได้ 3-5 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ) และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน (ทั้งนี้ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้ขึ้นอยู่กับปริมาณแสงอาทิตย์ในแต่ละช่วงเวลา, ประสิทธิภาพของแผงโซล่าเซลล์จะลดลงโดยเฉลี่ย 8-10% ภายในระยะเวลา 10 ปี)

ถ้าพูดถึงเรื่องความประหยัด แน่นอนว่าการใช้พลังงานฟรียังไงก็ประหยัด แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความคุ้มค่าในการลงทุน ณ ปัจจุบัน ความคุ้มค่านั้นขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ไฟฟ้าของแต่ละสถานที่ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นบ้านหรือโฮมออฟฟิศที่ต้องเปิดไฟ เปิดแอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ทั้งวัน แน่นอนว่าการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการช่วยให้เราประหยัดค่าไฟได้ในระยะยาว แต่ในทางกลับกันถ้าเป็นบ้านที่ไม่ค่อยได้ใช้ไฟฟ้าซักเท่าไหร่ก็คงจะไม่คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป



แผงโซล่าเซลล์ Mono-Crystalline PV Module ขนาด 400w , 550w , 600w , 660w

พร้อมส่งราคาพิเศษ !! ยิ่งซื้อเยอะยิ่งถูกลง

Solar cell
Solar cell
Solar cell
Solar cell


สูตรคำนวณกำลังไฟฟ้า

Thai-A เราเป็นผู้นำด้านบริการ และจัดจำหน่าย อุปกรณ์ระบบโซล่าเซลล์ โซล่าฟาร์ม ซล่ารูฟทอป พลังงานทดแทนแบบครบวงจร อาทิ ปั๊มน้ำโซล่าเซลล์ ปั๊มหอยโข่งโซล่าเซลล์ สินค้าคุณภาพดีพร้อมให้บริการ และติดตั้งด้วยทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องโซล่าเซลล์


ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร : 02-026-3854

E-mail : webmaster@taecgroup.com

Facebook : thaiagency

Line ID : @thaiagency

Read More
รถคีบอ้อยสามารถนำไปคีบไม้ได้ไหม (2)_5

รถคีบอ้อยสามารถนำไปคีบไม้ได้ไหม?

รถคีบอ้อยสามารถนำไปคีบไม้ได้ไหม?

รถคีบอ้อยโดยทั่วไปจะมีปากคีบขนาดใหญ่ที่สามารถคีบลำอ้อยได้ครั้งละมาก ๆ ซึ่งเหมาะสำหรับการขนย้ายอ้อยในไร่อ้อย อย่างไรก็ตาม คีบรถคีบอ้อยอาจไม่แข็งแรงพอที่จะคีบไม้ที่มีน้ำหนักมากขนาดใหญ่หรือมีกิ่งก้านหนา นอกจากนี้ ไม้ยังมีน้ำหนักมากกว่าอ้อย ดังนั้นรถคีบอ้อยอาจไม่เพียงพอที่จะยกไม้ขึ้นได้ หากต้องการคีบไม้ด้วยรถคีบอ้อย จึงจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาหากต้องการทำรถคีบอ้อยไปคีบไม้

  • น้ำหนักของไม้
  • ขนาดของไม้
  • ความแข็งแรงของคีบ
  • กำลังของเครื่องยนต์

หากไม้มีน้ำหนักมากหรือมีกิ่งก้านหนา รถคีบอ้อยอาจไม่เพียงพอที่จะยกขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรใช้รถคีบขนาดใหญ่ที่มีกำลังและแรงยกมากกว่า หรือใช้รถเครนในการยกไม้ ในทางกลับกัน หากไม้มีน้ำหนักเบาหรือมีขนาดเล็ก รถคีบอ้อยอาจสามารถยกขึ้นได้ แต่อาจต้องระมัดระวังไม่ให้ปากคีบหลุดหรือเสียหาย 

นอกจากการประยุกต์ใช้งานรถคีบอ้อยนำไปคีบท่อนไม้ขนาดเล็ก รถคีบอ้อยยังสามารถขนย้ายสินค้า หรือคีบเศษขยะได้อีกด้วย แต่ถ้าหากนำรถคีบอ้อยไปใช้งานอาจจะต้องพิจารณาในเรื่องของกำลัง ขนาด ของรถคีบอ้อย หากใช้งานเกินกำลังของรถคีบอ้อยอาจจะทำให้เกิดอันตรายหรือเกิดความเสียหายได้ สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาโรงงานผลิตรถคีบอ้อย จำหน่ายรถคีบอ้อย Thai-A เราเป็นผู้จำหน่าย รับซ่อม รถคีบอ้อยที่ได้มาตรฐาน นำทีมโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร :  02-026-3854

E-mail : webmaster@taecgroup.com

Facebook :thaiagency

Line ID :@thaiagency

Thai-A-banner-ติดต่อ
Read More
มาตรการป้องกันอันตรายจากระบบไฮดรอลิค (2)_3

มาตรการป้องกันอันตรายจากระบบไฮดรอลิค

มาตรการป้องกันอันตรายจากระบบไฮดรอลิค

อันตรายจากระบบไฮดรอลิคอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น แรงดันสูง ความร้อนสูง และการรั่วไหล อันตรายเหล่านี้อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ จึงควรมีมาตรการป้องกันอันตรายจากระบบไฮดรอลิคอย่างเหมาะสม

มาตรการป้องกันอันตรายจากระบบไฮดรอลิค

  • ตรวจสอบสภาพของระบบไฮดรอลิคอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบไฮดรอลิคอยู่ในสภาพดี ไม่เกิดการรั่วไหล หรือมีรอยแตกร้าว หากพบความผิดปกติควรทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ชำรุดทันที
  • ใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล เช่น แว่นตานิรภัย ถุงมือ และรองเท้านิรภัย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บจากกระบอกลมหรืออุปกรณ์อื่นๆ ในระบบไฮดรอลิค
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัย ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้งานระบบไฮดรอลิคอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

นอกจากนี้ ควรฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบไฮดรอลิคและวิธีการใช้งานอย่างปลอดภัย เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

สำหรับท่านใดที่ต้องการสินค้าไฮดรอลิค Thai-A เราเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าในระบบไฮดรอลิคทุกชนิด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่างที่แสดง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร : 02-026-3854

E-mail : webmaster@taecgroup.com

Facebook :thaiagency

Line ID : @thaiagency

Thai-A-banner-ติดต่อ
Read More
สัญญาณเตือน Solar Rooftop กำลังมีปัญหา (2)_1

สัญญาณเตือน Solar Rooftop กำลังมีปัญหา

สัญญาณเตือน Solar Rooftop กำลังมีปัญหา

Solar Rooftop มีข้อดีมากมาย เช่น ช่วยประหยัดค่าไฟ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และช่วยเพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม Solar Rooftop ก็อาจมีปัญหาได้เช่นกัน ซึ่งสัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกว่า Solar Rooftop กำลังมีปัญหา วันนี้แอดมินได้รวบรวมสัญญาณเตือนของ Solar Rooftop มาฝาก จะมีอะไรบ้างนั้น ตามแอดมินมาดูกันเลยค่ะ

สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่า Solar Rooftop กำลังมีปัญหา

  • แผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าได้น้อยลง หากแผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าได้น้อยลงกว่าปกติ อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น แผงโซลาร์เซลล์เสื่อมสภาพ ฝุ่นละอองเกาะติด หรือการชำรุดของอุปกรณ์ต่าง ๆ
  • อินเวอร์เตอร์ทำงานผิดปกติ หากอินเวอร์เตอร์ทำงานผิดปกติ อาจทำให้ไฟฟ้าที่ผลิตจากแผงโซลาร์เซลล์ไม่สามารถนำมาใช้งานได้ หรืออาจทำให้ไฟฟ้าที่ผลิตจากแผงโซลาร์เซลล์ไม่ปลอดภัย
  • ระบบสายไฟชำรุด หากระบบสายไฟชำรุด อาจทำให้กระแสไฟฟ้ารั่วไหล หรืออาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
  • ระบบป้องกันฟ้าผ่าทำงานผิดปกติ หากระบบป้องกันฟ้าผ่าทำงานผิดปกติ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อแผงโซลาร์เซลล์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ในระบบ

หากพบสัญญาณเตือนเหล่านี้ ควรรีบตรวจสอบและแก้ไขโดยช่างผู้ชำนาญ เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามจนเกิดความเสียหายรุนแรง สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาทีมงานรับติดตั้ง ออกแบบ Solar Rooftop Thai-A เราเป็นผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี

บทความที่เกี่ยวข้อง



ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร :  02-026-3854

E-mail : webmaster@taecgroup.com

Facebook :thaiagency

Line ID :@thaiagency

Thai-A-banner-ติดต่อ
Read More
สั่งผลิตชิ้นส่วนไฮดรอลิคต้องรู้อะไรบ้าง (2)_7

สั่งผลิตชิ้นส่วนไฮดรอลิคต้องรู้อะไรบ้าง

การสั่งผลิตชิ้นส่วนไฮดรอลิคจำเป็นต้องมีข้อมูลและความเข้าใจเกี่ยวกับชิ้นส่วนไฮดรอลิคเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้ชิ้นส่วนที่ตรงตามความต้องการและมีประสิทธิภาพในการทำงาน วันนี้แอดมินได้รวบรวมสาระข้อมูลในเรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนที่จะสั่งผลิตชิ้นส่วนไฮดรอลิคมาฝาก ตามแอดมินมาดูกันเลยค่ะ

ข้อมูลที่ต้องเตรียมก่อนสั่งผลิตชิ้นส่วนไฮดรอลิค มีดังนี้

  • ประเภทของชิ้นส่วนไฮดรอลิค ชิ้นส่วนไฮดรอลิคมีหลากหลายประเภท แต่ละประเภทมีโครงสร้างและการทำงานที่แตกต่างกัน จำเป็นต้องระบุประเภทของชิ้นส่วนไฮดรอลิคที่ต้องการให้ชัดเจน
  • ขนาดและรูปทรงของชิ้นส่วน ชิ้นส่วนไฮดรอลิคมีหลากหลายขนาดและรูปทรง จำเป็นต้องระบุขนาดและรูปทรงของชิ้นส่วนที่ต้องการให้ชัดเจน
  • วัสดุที่ใช้ผลิตชิ้นส่วน ชิ้นส่วนไฮดรอลิคผลิตจากวัสดุต่าง ๆ เช่น เหล็ก สเตนเลส อะลูมิเนียม จำเป็นต้องระบุวัสดุที่ต้องการใช้ผลิตชิ้นส่วนให้ชัดเจน
  • คุณสมบัติของชิ้นส่วน ชิ้นส่วนไฮดรอลิคต้องมีคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น แรงดันใช้งาน อุณหภูมิใช้งาน จำเป็นต้องระบุคุณสมบัติที่ต้องการให้ชัดเจน
  • ระบุงานที่จะนำชิ้นส่วนที่สั่งผลิตไปใช้ ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ผลิตจะช่วยแนะนำหากชิ้นส่วนไฮดรอลิคไม่เหมาะสมในการนำไปใช้งาน

การสั่งผลิตชิ้นส่วนไฮดรอลิคกับผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยให้ได้ชิ้นส่วนที่มีคุณภาพและตรงตามความต้องการ หรือหากคุณกำลังมองหาโรงงานรับผลิตชิ้นส่วนในระบบไฮดรอลิค ทีได้มาตรฐาน มอก. Thai-A เราเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายที่มีประสบการณ์มากกว่า 50 ปี

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร : 02-026-3854

E-mail : webmaster@taecgroup.com

Facebook :thaiagency

Line ID : @thaiagency

Thai-A-banner-ติดต่อ
Read More
รถคีบอ้อยเครื่องจักรสำคัญในไร่อ้อย (2)_3

รถคีบอ้อยเครื่องจักรสำคัญในไร่อ้อย

รถคีบอ้อยเป็นเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมน้ำตาล เนื่องจากช่วยในการเก็บเกี่ยวอ้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว รถคีบอ้อยมีหลายประเภทและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกซื้อรถคีบอ้อยที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง


ประโยชน์ของรถคีบอ้อย

  • ทุ่นแรง รถคีบอ้อยสามารถทำงานแทนแรงงานคนในการเก็บเกี่ยวอ้อย ซึ่งช่วยประหยัดแรงงานและค่าใช้จ่าย
  • เพิ่มผลผลิต รถคีบอ้อยสามารถเก็บเกี่ยวอ้อยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยเพิ่มผลผลิตอ้อย
  • ประหยัดเวลา รถคีบอ้อยสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการเก็บเกี่ยวอ้อย

การทำงานของรถคีบอ้อย

รถคีบอ้อยทำงานโดยใช้ระบบไฮดรอลิคในการยกและเคลื่อนย้ายอ้อย หลักการทำงานของรถคีบอ้อยมีดังนี้

  1. ระบบไฮดรอลิคจะขับเคลื่อนกระบอกลมให้เคลื่อนที่ขึ้นและลง
  2. ปากคีบของรถคีบอ้อยจะยกขึ้นและลงตามการเคลื่อนที่ของกระบอกลม
  3. เมื่อปากคีบยกขึ้น อ้อยจะถูกยกขึ้นด้วย
  4. เมื่อปากคีบลง อ้อยจะถูกวางลงบนพื้น

ข้อควรพิจารณาในการเลือกซื้อรถคีบอ้อย

การเลือกซื้อรถคีบอ้อยควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้สามารถเลือกรถคีบอ้อยที่เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ขนาดของไร่อ้อย หากไร่อ้อยมีขนาดใหญ่ ควรเลือกรถคีบอ้อยที่มีขนาดใหญ่และมีความจุในการบรรทุกสูง
  • สภาพของพื้นที่เก็บเกี่ยวอ้อย หากพื้นที่เก็บเกี่ยวอ้อยมีความขรุขระ ควรเลือกรถคีบอ้อยที่มีช่วงล่างแข็งแรง
  • งบประมาณ รถคีบอ้อยมีราคาค่อนข้างสูง ควรพิจารณางบประมาณที่มีอยู่ก่อนตัดสินใจซื้อ

สำหรับท่านใดที่กำลังมองหารถคีบอ้อยราคาโรงงาน Thai-A เราเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถคีบอ้อย ราคาโรงงาน หรือหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่างที่แสดง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร : 02-026-3854

E-mail : webmaster@taecgroup.com

Facebook :thaiagency

Line ID :@thaiagency

Read More
ข้อดีของการติดตั้ง Solar Rooftop สำหรับบ้านพักอาศัย (2)_1

ข้อดีของการติดตั้ง Solar Rooftop สำหรับบ้านพักอาศัย

สำหรับท่านใดที่กำลังสนใจหรือกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการติดตั้ง Solar Rooftop วันนี้แอดมินได้รวบรวมสาระความรู้ ข้อดีของการติดตั้ง Solar Rooftop ให้กับบ้านพักอาศัยของคุณมาฝาก จะมีอะไรบ้างนั่น ตามแอดมินมาดูกันเลยค่ะ



การติดตั้ง Solar Rooftop สำหรับบ้านพักอาศัยมีข้อดี ดังนี้

  • ประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาว Solar Rooftop สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ฟรีจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งสามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมากในระยะยาว โดยระยะเวลาคืนทุนของการติดตั้ง Solar Rooftop อยู่ที่ประมาณ 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับขนาดของแผงโซลาร์เซลล์และความต้องการใช้ไฟฟ้า
  • ช่วยลดการปล่อยมลพิษ Solar Rooftop ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม
  • เพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สิน บ้านที่มีการติดตั้ง Solar Rooftop มีมูลค่าเพิ่มมากกว่าบ้านที่ไม่มีการติดตั้ง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ในระยะยาวหากขายบ้านต่อจะทำให้เป็นที่น่าสนใจมากกว่าบ้านที่ไม่มีการติดตั้ง Solar Rooftop

ในการติดตั้ง Solar Rooftop ให้กับบ้านพักอาศัยนั้นหากเกิดไฟฟ้าดับ บ้านของคุณจะยังมีไฟฟ้าใช้ เนื่องจาก Solar Rooftop ของคุณสามารถทำงานได้ปกติ สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาผู้ให้บริการติดตั้ง ออกแบบ Solar Rooftop Thai-A เรารับติดตั้ง Solar Rooftop บ้าน อาคาร โรงงานอุตสาหกรรม ในราคาเป็นกันเอง หากสนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางการติดต่อด้านล่างที่แสดง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร :  02-026-3854

E-mail : webmaster@taecgroup.com

Facebook :thaiagency

Line ID :@thaiagency

Thai-A-banner-ติดต่อ
Read More
ดูแลชิ้นส่วนในระบบไฮดรอลิค (3)_7

ดูแลชิ้นส่วนในระบบไฮดรอลิค

ดูแลชิ้นส่วนในระบบไฮดรอลิค

สำหรับท่านใดที่ใช้งานระบบไฮดรอลิคอยู่เป็นประจำ การดูแลชิ้นส่วนในระบบไฮดรอลิคอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ระบบไฮดรอลิคทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในขณะใช้งานระบบไฮดรอลิคอีกด้วย ซึ่งในวันนี้แอดมินได้รวบรวมวิธีการดูแลชิ้นส่วนในระบบไฮดรอลิคมาฝาก จะต้องดูแลอย่างไรบ้างนั้น ตามแอดมินมาดูกันเลยค่ะ

ชิ้นส่วนไฮดรอลิคที่ต้องได้รับการดูแลสม่ำเสมอ

  • น้ำมันไฮดรอลิค เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของระบบไฮดรอลิค ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดแรงดัน หล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ และช่วยระบายความร้อน หากน้ำมันไฮดรอลิคเสื่อมสภาพหรือปนเปื้อนอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนอื่น ๆ ในระบบได้

วิธีดูแลน้ำมันไฮดรอลิค ได้แก่

  1. ตรวจสอบระดับน้ำมันไฮดรอลิคเป็นประจำ ระดับน้ำมันไฮดรอลิคควรอยู่ระดับที่เหมาะสมตามที่กำหนดไว้ในคู่มือการใช้งาน
  2. เปลี่ยนถ่ายน้ำมันไฮดรอลิคทุก 10,000-20,000 ชั่วโมงใช้งาน หรือตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคู่มือการใช้งาน
  3. ตรวจสอบสภาพความสะอาดของน้ำมันไฮดรอลิค หากน้ำมันไฮดรอลิคมีสิ่งสกปรกปนเปื้อน ให้รีบเปลี่ยนถ่ายน้ำมันไฮดรอลิคใหม่
  • ซีล เป็นส่วนประกอบที่ใช้ปิดผนึกรอยต่อต่าง ๆ ในระบบไฮดรอลิค เพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำมันไฮดรอลิค หากซีลเสียหายอาจทำให้น้ำมันไฮดรอลิครั่วไหลออก ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้

วิธีดูแลซีล ได้แก่

  1. ตรวจสอบสภาพซีลเป็นประจำ หากซีลมีรอยรั่วหรือเสียหาย ให้รีบเปลี่ยนใหม่
  2. ตรวจสอบสภาพความสะอาดของซีล หากซีลมีคราบสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมเกาะติด ให้ทำความสะอาดออก
  • กระบอกสูบ เป็นส่วนประกอบที่ใช้สร้างแรงดันในระบบไฮดรอลิค หากกระบอกสูบเสียหายอาจทำให้ระบบไฮดรอลิคทำงานผิดปกติได้

วิธีดูแลกระบอกสูบ ได้แก่

  1. ตรวจสอบสภาพกระบอกสูบเป็นประจำ หากกระบอกสูบมีรอยรั่วหรือเสียหาย ให้รีบซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่
  2. ตรวจสอบสภาพความสะอาดของกระบอกสูบ หากกระบอกสูบมีคราบสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมเกาะติด ให้ทำความสะอาดออก
  • ปั๊ม เป็นส่วนประกอบที่ใช้ส่งน้ำมันไฮดรอลิคไปยังส่วนต่าง ๆ ของระบบ หากปั๊มเสียหายอาจทำให้ระบบไฮดรอลิคหยุดทำงานได้

วิธีดูแลปั๊ม ได้แก่

  1. ตรวจสอบสภาพปั๊มเป็นประจำ หากปั๊มมีรอยรั่วหรือเสียหาย ให้รีบซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่
  2. ตรวจสอบสภาพความสะอาดของปั๊ม หากปั๊มคราบสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมเกาะติด ให้ทำความสะอาดออก
  • วาล์ว เป็นส่วนประกอบที่ใช้ควบคุมทิศทางการไหลของน้ำมันไฮดรอลิค หากวาล์วเสียหายอาจทำให้ระบบไฮดรอลิคทำงานผิดปกติได้

วิธีดูแลวาล์ว ได้แก่

  1. ตรวจสอบสภาพวาล์วเป็นประจำ หากวาล์วมีรอยรั่วหรือเสียหาย ให้รีบซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่
  2. ตรวจสอบสภาพความสะอาดของวาล์ว หากวาล์วมีคราบสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมเกาะติด ให้ทำความสะอาดออก

สำหรับท่านใดที่สนใจชิ้นส่วนในระบบไฮดรอลิค Thai-A เราเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนในระบบไฮดรอลิคทุกชนิดในราคาโรงงาน หรือหากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่างที่แสดง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร : 02-026-3854

E-mail : webmaster@taecgroup.com

Facebook :thaiagency

Line ID : @thaiagency

Thai-A-banner-ติดต่อ
Read More