ใช้รถตัดอ้อยช่วยแก้ปัญหามลพิษทางอากาศอย่างไร
ใช้รถตัดอ้อยช่วยแก้ปัญหามลพิษทางอากาศอย่างไร
ปัจจุบันปัญหาที่เกิดจากมลพิษทางอากาศมีให้เราพบเห็นอยู่มาก มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีกระทบต่อสุขอนามัยของประชาชนโดยตรง โดยสิ่งที่พบเห็นได้บ่อยคือปัญหาทางด้านมลพิษที่เกิดจากการทำการเกษตรส่วนหนึ่งก็คือ มลพิษจากการที่ชาวไร่อ้อยเผาอ้อย ซึ่งจะเห็นว่ามีการรณรงค์ให้ ชาวไร่หันมาใช้รถตัดอ้อย เพื่อตัดอ้อยสดกันมากขึ้น ด้วยนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่ รถตัดอ้อยไทยทำที่ช่วยให้กระบวนการตัดอ้อย ทำได้ง่าย รวดเร็ว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วันนี้แอดมินจะพามาดูการใช้รถตัดอ้อยช่วยแก้ปัญหามลพิษทางอากาศอย่างไร
มลพิษจากการที่ชาวไร่อ้อยเผาอ้อย
โดยทั่วไปนั้นมลพิษที่เกิดจากการเผาอ้อยจะประกอบไปด้วย ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ สารประกอบอินทรีย์ที่ระเหยได้ อนุภาคของแข็งขนาดเล็กและฝุ่นละออง ซึ่งจะกระจายไปในอากาศทำให้สภาพการมองเห็นลดลง เกิดการระคายต่อจมูกและลำคอและหากประสบสภาวะนี้นานเกินไปจะส่งผลเสียต่อการหายใจอีกด้วย ดังนั้นจะดีกว่า ถ้าเราสามารถร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขปัญหาทางด้านมลพิษที่เกิดจากชาวไร่อ้อยนี้ด้วยการหันมาลงทุนทางด้านเครื่องจักรกลทางการเกษตรจากรถตัดอ้อย เพื่อลดปัญหาฝุ่นควัน การใช้รถตัดอ้อยนั้นไม่เพียงแต่ลดปัญหาฝุ่นควันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะการใช้รถตัดอ้อยนั้นสามารถช่วยลดปัญหาทางด้านแรงงานและเพิ่มค่าน้ำตาลในอ้อยอีกด้วย
การเก็บเกี่ยวด้วยรถตัดอ้อย
ในกรณีที่เก็บเกี่ยวด้วยรถตัดอ้อย ส่วนมากจะมีการเผาก่อนแล้วจึงใช้รถตัดอ้อยเข้าไปตัดยอดและลำต้นติดพื้นดิน หลังจากนั้นต้นอ้อยก็จะถูกตัดออกเป็นท่อน ท่อนละประมาณ 30 เซนติเมตร หลังจากนั้นท่อนอ้อยจะถูกส่งไปตามสายพานซึ่งมีกะพ้อผ่านพัดลม ซึ่งจะคัดแยกสิ่งสกปรกออกก่อนที่จะถูกพ่นลงในรถบรรทุกซึ่งวิ่งคู่กันเพื่อบรรทุกอ้อยที่ตัดแล้ว เมื่อบรรทุกเต็มคันรถก็จะมีคันใหม่มาแทนเรื่อยไป รถตัดอ้อยตัดได้วันละประมาณ 30 ไร่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพของอ้อย และสภาพไร่ การใช้รถตัดอ้อยทำการตัดอ้อยสามารถช่วยลดมลภาวะเป็นพิษทางอากาศได้อย่างดี เพราะก่อนหน้านี้ชาวไร่อ้อยก่อนจะตัดอ้อยต้องมีการเผาต้นอ้อยก่อน โดยเฉลี่ยประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของชาวไร่อ้อยในประเทศไทย ต้องเผาต้นอ้อยก่อนจะใช้แรงงานเข้าไปตัดลำต้น แต่รถตัดอ้อยสามารถตัดโดยอัตโนมัติและย่อยใบเป่าลงดินไม่ต้องเผา สามารถลดมลภาวะอันเป็นพิษที่เกิดจากการเผาไร่อ้อยจนเป็นฝุ่นควันได้เป็นอย่างดี การใช้รถตัดอ้อยมีข้อดีในด้านการช่วยลดปัญหาทางด้านฝุ่นควัน, ลดปัญหาทางด้านแรงงาน และใช้รถตัดอ้อยช่วยเพิ่มค่าน้ำตาลอ้อยให้สูงขึ้น
จากบทความเรื่อง ใช้รถตัดอ้อยช่วยแก้ปัญหามลพิษทางอากาศอย่างไร ซึ่งจะสามารถให้ความรู้แก่เกษตรกรที่ทำไร่อ้อยให้หันมาใช้รถตัดอ้อยกันมากขึ้น เพราะการใช้รถตัดอ้อยนั้นช่วยลดมลพิษทางอากาศได้มากกว่าการเผาอ้อยที่ส่งผลเสียมากมาย ซึ่งถ้าหากสนใจจะซื้อรถตัดอ้อยที่มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา Thai-A เราเป็นโรงงานรถตัดอ้อยที่น่าเชื่อถือ และรับผลิตรถตัดอ้อยที่มีประสิทธิภาพ มีผลงานต่าง ๆ การันตีคุณภาพ แล้วยังเป็นศูนย์รวมเครื่องจักรกลการเกษตร อะไหล่ทางการเกษตร โดยเราเป็นตัวเเทนผู้ผลิตและจำหน่ายรถตัดอ้อย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ หัวคีบอ้อย อะไหล่รถเกี่ยวข้าว และยังมีผู้เชี่ยวชาญในด้านเครื่องจักรกลการเกษตรที่พร้อมให้คำปรึกษาทุกท่าน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และสามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้แก่ท่านได้
บทความที่เกี่ยวข้อง
- รถตัดอ้อย THAI-A มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์เกษตรกรไทยอย่างไร
- วางแผนใช้งานรถตัดอ้อยอย่างไรให้ใช้งานได้ยาวนาน
- ใบอ้อยหลังการเก็บเกี่ยวอ้อยโดยรถตัดอ้อย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail :webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
วางแผนใช้งานรถตัดอ้อยอย่างไรให้ใช้งานได้ยาวนาน
วางแผนใช้งานรถตัดอ้อยอย่างไรให้ใช้งานได้ยาวนาน
รถตัดอ้อยเป็นเครื่องมือเกษตรที่มีความสำคัญต่อการทำไร่อ้อยเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะประสิทธิภาพในการเก็บเกี่ยวของรถตัดอ้อยที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว และลดฝุ่นควันจากการเผาไหม้ได้ ทั้งยังสามารถทุ่นแรงงานคนได้อีกด้วย ดังนั้นการใช้งานรถตัดอ้อยนั้นควรมีการวางแผนก่อนการใช้งาน เพื่อเตรียมความพร้อมและรู้ขั้นตอนการใช้งานรถตัดอ้อย จะทำให้รถตัดอ้อยสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ วันนี้แอดมินจะพามาดูการวางแผนใช้งานรถตัดอ้อยอย่างไรให้ใช้งานได้ยาวนาน
การเตรียมแปลงอ้อยที่จะเก็บเกี่ยว
- ควรเตรียมแปลงด้วยการปรับพื้นให้มีความสม่ำเสมอ
- เตรียมแปลงสำหรับกลับรถตัดอ้อย เพื่อไม่ให้รถตัดอ้อยเหยียบตออ้อย
- ตัดร่องอ้อยมีระยะห่างอยู่ที่ 1.85 เมตร ตามมาตรฐานของรถตัดอ้อย
- กำจัดต้นไม้ ตอไม้ ก้อนหิน และสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ออกจากแปลงอ้อย เพื่อเป็นการลดอุปสรรคในการทำงานของรถตัดอ้อย
- ควรปลูกอ้อยให้มีความลึกอยู่ที่ 20-25 เซนติเมตร ตามชนิดดินเหนียวหรือดินทราย
- ทำการ ยกร่อง หรือพูนโคน เพื่อให้ต้นอ้อยอยู่บนสันร่องสูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร ซึ่งจะช่วยให้ชุดจานตัดโคนของรถตัดอ้อยนั้นตัดได้ชิดดิน สามารถทำให้รถตัดอ้อยเก็บเกี่ยวเอาส่วนโคนที่หวานที่สุดของต้นอ้อยได้ โดยไม่ทำให้อ้อยแตกและเสียหายได้
ก่อนที่จะใช้งานรถตัดอ้อยควรจัดการอย่างไร ?
ก่อนที่จะใช้งานรถตัดอ้อยควรจัดเตรียมผ้าคลุมกระบะบรรทุกอ้อย คลุมให้มิดชิด ป้องกันท่อนอ้อยตกหล่นตามท้องถนน สำหรับรถตัดอ้อยคันไหนที่ใช้รถลำเลียงอ้อย ต้องจัดเตรียมรถแทรกเตอร์ที่จะใช้ลากรถลำเลียงอ้อย โดยรถลำเลียงอ้อยขนาดบรรทุก 6 ตัน รถแทรกเตอร์ต้องมีกำลังเครื่องยนต์ไม่น้อยกว่า 80 แรงม้า และรถลำเลียงอ้อยขนาดบรรทุก 8 ตัน รถแทรกเตอร์ต้องมีกำลังเครื่องยนต์ไม่น้อยกว่า 100 แรงม้า การควบคุมการใช้งานของรถตัดอ้อย คือตัวรถตัดอ้อยควรควบคุมให้มีความเร็วระหว่าง 4-5 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยใช้รอบพัดลมใหญ่ระหว่าง 800-900 รอบต่อวินาที และการวิ่งทำงานของรถตัดอ้อย โดยรถตัดอ้อยหนึ่งคันนั้น จะสามารถตัดอ้อยได้ 35-40 ไร่/วัน หรือประมาณ 500-600 ตัน/วัน
อัตราส่วนรถตัดอ้อยต่อรถบรรทุกอ้อยที่เหมาะสม
- ระยะทางขนส่งอ้อย 1-40 กม. ต้องมีรถบรรทุก 6-8 กล่อง
- ระยะทางขนส่งอ้อย 41-80 กม. ต้องมีรถบรรทุก 10 กล่อง
- ระยะทางขนส่งอ้อย 80 กม. ขึ้นไป ต้องมีรถบรรทุก 12 กล่อง
การวางแผนก่อนที่จะใช้งานรถตัดอ้อย จะช่วยให้สามารถใช้งานรถตัดอ้อยได้ยาวนานมากขึ้น เราจึงอยากให้ชาวไร่อ้อยได้ตะหนักถึงการวางแผนการใช้งานรถตัดอ้อย เพื่อที่จะใช้รถตัดอ้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากสนใจจะซื้อรถตัดอ้อยที่มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา Thai-A เราเป็นโรงงานรถตัดอ้อยที่น่าเชื่อถือ และรับผลิตรถตัดอ้อยที่มีประสิทธิภาพ มีผลงานต่าง ๆ การันตีคุณภาพ แล้วยังเป็นศูนย์รวมเครื่องจักรกลการเกษตร อะไหล่ทางการเกษตร โดยเราเป็นตัวเเทนผู้ผลิตและจำหน่ายรถตัดอ้อย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ หัวคีบอ้อย อะไหล่รถเกี่ยวข้าว และยังมีผู้เชี่ยวชาญในด้านเครื่องจักรกลการเกษตรที่พร้อมให้คำปรึกษาทุกท่าน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และสามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้แก่ท่านได้
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ใบอ้อยหลังการเก็บเกี่ยวอ้อยโดยรถตัดอ้อย
- ซื้อรถตัดอ้อยมือหนึ่งหรือมือสองดีกว่ากัน ?
- ข้อแนะนำในการใช้งานรถตัดอ้อยสำหรับเกษตรกรให้คุ้มค่า
สนใจสอบถามได้ที่
โทร : 02-026-3854
Email : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
ใบอ้อยหลังการเก็บเกี่ยวอ้อยโดยรถตัดอ้อย
ใบอ้อยหลังการเก็บเกี่ยวอ้อยโดยรถตัดอ้อย
หลังจากการเก็บเกี่ยวอ้อยโดยรถตัดอ้อยจะมีใบอ้อยที่เหลือทิ้งไว้ในไร่ประมาณ 17.0 ล้านตัน ซึ่งใบอ้อยจากการเก็บเกี่ยวโดยรถตัดอ้อยพวกนี้สามารถนำมาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 1,647 เมกะวัตต์ โดยส่วนใหญ่เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมเผาอ้อยก่อนเก็บเกี่ยวโดยรถตัดอ้อย หากเกษตรกรหรือผู้ประกอบการนำใบอ้อยมาเป็นวัสดุเชื้อเพลิงร่วมกับวัสดุเกษตรอื่นขายให้โรงไฟฟ้าชีวมวลหรือโรงงานน้ำตาลหลังจากเก็บเกี่ยวโดยรถตัดอ้อย จะช่วยลดการเผาอ้อยและเพิ่มคุณภาพความหวานของน้ำตาล สำหรับแนวทางในการนำเศษวัสดุเหลือใช้จากรถตัดอ้อยมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และลดการเผาใบและยอดอ้อยหลังการเก็บเกี่ยวที่ได้จากรถตัดอ้อย สามารถทำได้ดังนี้
ใบอ้อยหลังการเก็บเกี่ยว
ใบอ้อยที่ถูกเก็บเกี่ยวโดยรถตัดอ้อยแล้ว ถ้าจะจัดการเก็บและขนส่ง ต้องมีการนำวัสดุมาขึ้นรูป โดยการอัดเป็นเม็ดหรือแท่ง เพื่อเพิ่มความหนาแน่นและลดความชื้นของวัสดุ ช่วยให้ง่ายต่อการควบคุมปริมาณน้ำหนัก และขนาดให้มีความสม่ำเสมอ ขนาดอนุภาคที่ได้หลังการสับย่อยจากรถตัดอ้อยมีขนาดที่เหมาะสมต่อการนำไปใช้งานจึงมีความสำคัญ สำหรับเป็นแนวทางในการนำเศษวัสดุเหลือใช้จากรถตัดอ้อยมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อเพิ่มปริมาณเชื้อเพลิงในการผลิตพลังงานไฟฟ้า ช่วยสร้างงานเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร และลดการเผาใบอ้อยและยอดอ้อยหลังการเก็บเกี่ยวโดยรถตัดอ้อย จึงต้องมีการนำใบอ้อยหลังการเก็บเกี่ยวมาสับย่อยอีกที
การลดขนาดวัสดุเหลือทิ้งจากไร่อ้อย
วัสดุเหลือทิ้งในไร่อ้อยหลังการเก็บเกี่ยวโดยรถตัดอ้อย ได้แก่ ยอดและใบอ้อยที่มีความหนาแน่นต่ำ และมีขนาดที่ไม่เหมาะสมต่อการนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิง เพราะหลังการเก็บเกี่ยวโดยรถตัดอ้อยขนาดจะมีผลกระทบต่ออัตราการระบายความร้อน และความต้องการอากาศเพิ่มขึ้นของหม้อไอน้ำ ฉะนั้นประสิทธิภาพการเผาไหม้ของหม้อไอน้ำ จึงขึ้นอยู่กับขนาดของวัสดุเชื้อเพลิงที่ได้จากรถตัดอ้อย ถ้าวัสดุที่ใช้เผาไหม้มีขนาดที่เหมาะสมแล้ว จะทำให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ใบอ้อยหลังการเก็บเกี่ยวโดยรถตัดอ้อย เป็นวัสดุชีวมวลที่มีความหนาแน่นต่ำ เมื่อได้รับความร้อนจะเกิดการลุกไหม้อย่างรวดเร็ว การนำใบอ้อยหลังการเก็บเกี่ยวโดยรถตัดอ้อย ที่มาทำการผ่านการสับย่อยมาอัดเม็ดจะเป็นการเพิ่มความหนาแน่นของวัสดุให้มากขึ้น ทำให้ได้ปริมาณของเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นและสะดวกต่อการนำไปใช้เป็นวัตถุดิบเชื้อเพลิงด้วย
จากบทความเรื่องใบอ้อยหลังการเก็บเกี่ยวอ้อยโดยรถตัดอ้อย ซึ่งแนะนำให้มีการนำใบอ้อยไปทำให้เกิดประโยชน์ และสามารถเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร หลังจากการเก็บเกี่ยวอ้อยโดยรถตัดอ้อย แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติที่ดีของรถตัดอ้อย ซึ่งถ้าหากสนใจจะซื้อรถตัดอ้อยที่มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา Thai-A เราเป็นโรงงานรถตัดอ้อยที่น่าเชื่อถือ และรับผลิตรถตัดอ้อยที่มีประสิทธิภาพ มีผลงานต่าง ๆ การันตีคุณภาพ แล้วยังเป็นศูนย์รวมเครื่องจักรกลการเกษตร อะไหล่ทางการเกษตร โดยเราเป็นตัวเเทนผู้ผลิตและจำหน่ายรถตัดอ้อย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ หัวคีบอ้อย อะไหล่รถเกี่ยวข้าว และยังมีผู้เชี่ยวชาญในด้านเครื่องจักรกลการเกษตรที่พร้อมให้คำปรึกษาทุกท่าน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และสามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้แก่ท่านได้
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ซื้อรถตัดอ้อยมือหนึ่งหรือมือสองดีกว่ากัน ?
- ข้อแนะนำในการใช้งานรถตัดอ้อยสำหรับเกษตรกรให้คุ้มค่า
- ใช้รถตัดอ้อยดียังไง ?
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
ซื้อรถตัดอ้อยมือหนึ่งหรือมือสองดีกว่ากัน ?
ซื้อรถตัดอ้อยมือหนึ่งหรือมือสองดีกว่ากัน ?
สำหรับเกษตรกรที่กำลังมองหารถตัดอ้อยไว้ใช้งานอยู่ แต่ก็ยังลังเลว่าควรเลือกรถตัดอ้อยมือหนึ่งหรือมือสอง แบบไหนจะให้ความคุ้มค่าในการตัดอ้อยได้มากกว่ากัน หรือมีข้อดี ข้อเสียต่างกันอย่างไร วันนี้จะมาอธิบายและเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียระหว่างรถตัดอ้อยมือหนึ่งหรือมือสอง ให้ดูกันว่าแบบไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน
ราคาระหว่างรถตัดอ้อยมือหนึ่งกับรถตัดอ้อยมือสอง
แน่นอนว่าการซื้อรถตัดอ้อย สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง คือเรื่องของราคาที่ต้องจ่ายไป เพื่อให้ได้รถตัดอ้อยที่ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและคงทน ถ้าเป็นรถตัดอ้อยมือหนึ่งที่มาพร้อมกับฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ราคาก็ย่อมสูง ทำให้เกิดภาระค่าผ่อนต่อเดือนมากตามไปด้วย แต่ถ้าเรายอมจ่ายมัน บางครั้งก็อาจจะพบโปรโมชั่นเด็ด ๆ เช่น ดอกเบี้ย 0% หรือลดเงินดาวน์ พร้อมของแถม ในทางกลับกันจำนวนเงินที่ใช้ซื้อรถตัดอ้อยมือหนึ่งสามารถเลือกซื้อรถตัดอ้อยมือสองที่เป็นรุ่นใหญ่หรือรุ่นท็อปกว่าได้ แต่สิ่งสำคัญที่คนมักกลัวในการซื้อรถตัดอ้อยมือสอง คือการไม่ทราบประวัติ และข้อมูลว่าผ่านอะไรมาบ้าง อาจจะมีการใช้งานที่หนักหน่วงมาก่อน ถ้าเจ้าของรถตัดอ้อยคันเก่าไม่บอก เราอาจจะถูกหลอกให้ซื้อโดยไม่ทราบประวัติได้
สภาพเครื่องยนต์ระหว่างรถตัดอ้อยมือหนึ่งกับรถตัดอ้อยมือสอง
สำหรับรถตัดอ้อยมือหนึ่งต้องยอมรับว่า นวัตกรรมที่มาพร้อมรถตัดอ้อยรุ่นใหม่ ๆ น่าสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของการปรับปรุงเครื่องยนต์ เรื่องการประหยัดพลังงานและที่สำคัญมีฟีเจอร์ช่วยดูแลในเรื่องความปลอดภัย ช่วยให้คนขับวางใจในคุณภาพการใช้งาน แต่ถ้ารถตัดอ้อยเกิดมีปัญหา ก็สามารถเข้าเคลมกับผู้จำหน่ายได้โดยตรงได้ทันที มีช่างผู้เชี่ยวชาญคอยรับผิดชอบงาน แต่หากเป็นสภาพรถตัดอ้อยมือสอง ยังไงก็ต้องถูกใช้งานมาบ้างไม่มากก็น้อย การเช็กสภาพรถตัดอ้อยก่อนเลือกซื้อรถตัดอ้อยมือสองเป็นสิ่งสำคัญ จึงจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับรถตัดอ้อยค่อนข้างมาก หรือหากมีคนรู้จักที่ชำนาญการเช็กสภาพรถตัดอ้อย ก็ให้เขาช่วยเช็ก เพื่อจะได้รถตัดอ้อยมาใช้งานและไม่เจอปัญหาในภายหลัง และนอกจากนี้ยังต้องประเมินการบำรุงรักษารถตัดอ้อย เพื่อทราบภาระค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มมาหลังซื้อ ประเมินว่าจ่ายไหวไหม คุ้มหรือไม่ถ้าเทียบกับซื้อรถตัดอ้อยมือหนึ่ง
ฟังก์ชันการใช้งาน ระหว่างรถตัดอ้อยมือหนึ่งกับรถตัดอ้อยมือสอง
รถตัดอ้อยมือหนึ่ง มักมีการพัฒนาเทคโนโลยีให้น่าสนใจ รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ พร้อมความสะดวกสะบายให้กับผู้ใช้งาน สำหรับรถตัดอ้อยมือสอง ถ้าเป็นรุ่นเก่าหน่อยก็จะไม่ได้ฟังก์ชันเหมือนกับรถตัดอ้อยรุ่นใหม่ แต่ถ้ารุ่นไม่เก่ามากก็มีความเป็นไปได้ที่ฟังก์ชันและคุณภาพจะใกล้เคียงกับรถตัดอ้อยรุ่นใหม่ แถมราคาอาจถูกกว่าเกือบครึ่ง แต่บางคนเลือกซื้อรถตัดอ้อยเพื่อใช้งาน ไม่ได้ต้องการฟังก์ชันที่โดดเด่นมาก ฉะนั้นรถตัดอ้อยมือสองก็เป็นทางเลือกที่ดีทางเลือกหนึ่งเลย
เทียบข้อดีข้อเสียของรถตัดอ้อยมือหนึ่งและรถตัดอ้อยมือสอง
รถตัดอ้อยมือหนึ่ง
ข้อดี : ได้รถตัดอ้อยใหม่ไม่ผ่านการใช้งานมาก่อน ไม่ต้องกังวลเรื่องประวัติที่ไม่ดี มีฟีเจอร์ทันสมัยกว่ารถตัดอ้อยมือสอง โปรโมชั่นเยอะ อัตราดอกเบี้ยถูกกว่าการซื้อรถตัดอ้อยมือสอง เสียค่าบำรุงรักษาน้อย เสี่ยงเจอปัญหาจุกจิกน้อย
ข้อเสีย : ราคาสูงกว่าซื้อรถตัดอ้อยมือสอง ภาระการผ่อนชำระต่อเดือนยิ่งมาก
รถตัดอ้อยมือสอง
ข้อดี :ราคาถูก ถ้าเลือกจัดไฟแนนซ์แบบผ่อนชำระระยะสั้นหรือจำนวนงวดน้อย ดอกเบี้ยก็จะถูกลงและสามารถปิดยอดกู้ได้เร็วขึ้น
ข้อเสีย :อาจได้รถตัดอ้อยที่มีประวัติการชน การซ่อม ถ้าไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจซื้ออาจมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษาค่อนข้างมากตามมา
จากบทความเรื่องซื้อรถตัดอ้อยมือหนึ่งหรือมือสองดีกว่ากัน ? หากเกษตรกรที่กำลังลังเลเลือกซื้อรถตัดอ้อย เพื่อนำมาใช้งาน บทความข้างต้นจะช่วยให้ตัดสินใจเลือกซื้อรถตัดอ้อยได้ดีมากขึ้น โดยมีการเปรียบเทียบรถตัดอ้อยมือหนึ่งและมือสองให้พิจารณา แต่ถ้าหากสนใจจะซื้อรถตัดอ้อยที่มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา Thai-A เราเป็นโรงงานรถตัดอ้อยที่น่าเชื่อถือ และรับผลิตรถตัดอ้อยที่มีประสิทธิภาพ มีผลงานต่าง ๆ การันตีคุณภาพ แล้วยังเป็นศูนย์รวมเครื่องจักรกลการเกษตร อะไหล่ทางการเกษตร โดยเราเป็นตัวเเทนผู้ผลิตและจำหน่ายรถตัดอ้อย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ หัวคีบอ้อย อะไหล่รถเกี่ยวข้าว และยังมีผู้เชี่ยวชาญในด้านเครื่องจักรกลการเกษตรที่พร้อมให้คำปรึกษาทุกท่าน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และสามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้แก่ท่านได้
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ข้อแนะนำในการใช้งานรถตัดอ้อยสำหรับเกษตรกรให้คุ้มค่า
- ใช้รถตัดอ้อยดียังไง ?
- เตรียมไร่อ้อยยังไงให้รถตัดอ้อยทำงานง่าย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
ข้อแนะนำในการใช้งานรถตัดอ้อยสำหรับเกษตรกรให้คุ้มค่า
ข้อแนะนำในการใช้งานรถตัดอ้อยสำหรับเกษตรกรให้คุ้มค่า
รถตัดอ้อยเป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาทางด้านการขาดแคลนแรงงาน และการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ซึ่งรถตัดอ้อยเป็นเครื่องจักรกลที่ถูกนำมาใช้ทดแทนการว่าจ้างแรงงานในการเก็บเกี่ยวผลผลิต เพราะจำเป็นต้องที่จะต้องเร่งตัดอ้อย เพื่อส่งเข้าโรงงานผลิตน้ำตาลให้ทันช่วงเวลาหีบอ้อย การใช้รถตัดอ้อยของเกษตรกรในปัจจุบันยังจำกัดอยู่แค่ในส่วนของเกษตรกรรายใหญ่ และเกษตรกรที่เป็นคู่สัญญาส่งอ้อยเข้าโรงงานของโรงงานน้ำตาลแต่ละแห่ง เนื่องจากการลงทุนในรถตัดอ้อยเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าสูง นอกจากนั้นยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ การซ่อมบำรุง การดูแลรักษา จึงจำเป็นที่เกษตรกรต้องมีการคำนึงถึงความคุ้มค่าในการลงทุน ดังต่อไปนี้
1. ควรมีการใช้รถตัดอ้อยให้ได้ปริมาณการตัดอ้อยที่มากกว่า 10,000 ตันต่อปีหรือต่อฤดูหีบ โดยเฉพาะรถตัดอ้อยมือหนึ่งขนาดใหญ่ เนื่องจากมีราคาที่สูง ส่งผลทำให้ต้นทุนคงที่สูงขึ้น ดังนั้น หากเกษตรกรตัดอ้อยได้ปริมาณที่เต็มประสิทธิภาพของรถตัดอ้อยก็จะช่วยลดต้นทุนในส่วนของต้นทุนคงที่ได้ และก่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาด แต่ส่วนใหญ่เกษตรกรใช้ต่ำกว่าประสิทธิภาพของรถตัดอ้อย
2. ในการใช้รถตัดอ้อยควรมีการเตรียมแปลงให้เหมาะสม กล่าวคือแปลงอ้อยที่จะใช้รถตัดจะต้องไม่มีหิน เพราะจะทำให้ใบมีดสับล่างของรถตัดอ้อยหัก ส่งผลทำให้ต้นทุนการตัดเพิ่มขึ้น เพราะต้องเปลี่ยนใบมีดและหยุดตัดอ้อย นอกจากนี้เพื่อให้รถตัดอ้อยตัดได้อย่างสม่ำเสมอ จึงไม่ควรมีตอไม้ และในส่วนของการเตรียมแปลงอ้อย ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.4 เมตร เพื่อไม่ให้รถตัดอ้อยเหยียบตออ้อยเสียหาย ซึ่งส่งผลต่อผลผลิตอ้อยที่จะได้และยังส่งผลต่อผลผลิตอ้อยในปีถัดไปที่จะไว้ตอ นอกจากนี้ขนาดความยาวของแปลงอ้อยก็ไม่ควรที่จะสั้นเกินไป เพราะการที่แปลงอ้อยมีขนาดเล็กและสั้นจะมีผลทำให้รถตัดอ้อยต้องกลับหัวบ่อย ส่งผลต่อการสิ้นเปลืองน้ำมัน การใช้รถตัดอ้อยต้องมีความยาวของแปลงไม่น้อยไปกว่า 160 เมตร
3. ในการใช้รถตัดอ้อยมือสองเกษตรกรผู้ซื้อรถตัดอ้อยจะต้องพิจารณาจำนวนชั่วโมงการใช้งานของรถตัดอ้อย เนื่องจากหากรถตัดอ้อยมือสองถูกใช้งานมากเกินไปจะมีผลต่อค่าน้ำมัน
4. ทักษะของคนขับรถตัดอ้อยเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งต่อการใช้รถตัดอ้อย เพราะหากคนขับรถตัดอ้อยไม่มีความชำนาญก็จะส่งผลทำให้เกิดการเหยียบตออ้อย หรือขับรถตัดอ้อยไม่สัมพันธ์กับกล่องหรือรถที่รับอ้อย ก่อให้เกิดความสูญเสียอ้อยระหว่างตัด
จากบทความข้างต้นหากเกษตรกรมีปริมาณอ้อยถูกต้อง และมีการเตรียมแปลงที่เหมาะสม รวมถึงมีความพร้อมก็ควรลงทุนซื้อรถตัดอ้อยเป็นของตนเอง ซึ่ง Thai-A เราเป็นโรงงานรถตัดอ้อยที่น่าเชื่อถือ และรับผลิตรถตัดอ้อยที่มีประสิทธิภาพ มีผลงานต่าง ๆ การันตีคุณภาพ แล้วยังเป็นศูนย์รวมเครื่องจักรกลการเกษตร อะไหล่ทางการเกษตร โดยเราเป็นตัวเเทนผู้ผลิตและจำหน่ายรถตัดอ้อย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ หัวคีบอ้อย อะไหล่รถเกี่ยวข้าว และยังมีผู้เชี่ยวชาญในด้านเครื่องจักรกลการเกษตรที่พร้อมให้คำปรึกษาทุกท่าน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และสามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้แก่ท่านได้
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ใช้รถตัดอ้อยดียังไง ?
- เตรียมไร่อ้อยยังไงให้รถตัดอ้อยทำงานง่าย
- วิธีการตรวจสอบระบบรถตัดอ้อยให้พร้อมใช้งาน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
ใช้รถตัดอ้อยดียังไง ?
ใช้รถตัดอ้อยดียังไง ?
ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการใช้ชีวิตมากขึ้น รวมไปถึงในภาคการเกษตร จะเห็นได้ว่ามีเครื่องมือจักรกลการเกษตรในรูปแบบต่าง ๆ ที่เข้ามาช่วยให้ชาวเกษตรกรสะดวก สบายมากขึ้น รวมไปถึงยังย่นระยะเวลาการทำงาน วันนี้แอดมินจึงหยิบสาระความรู้ในเรื่องของรถตัดอ้อย เมื่อใช้แล้วจะได้ผลดีอย่างไร และเหมาะสมที่จะลงทุนซื้อรถตัดอ้อยหรือไม่ ลองมาดูกันเลยค่ะ
ในยุคก่อนชาวไร่อ้อยนิยมตัดอ้อยด้วยกำลังคน แรงงาน โดยใช้วิธีการเผาอ้อย ในการเผาอ้อยก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์สร้างมลพิษให้กับสภาพแวดล้อม การใช้แรงงานคนจำนวนมากมาระดมตัดอ้อย ซึ่งแน่นอนว่านอกจากการใช้กำลังคนที่มากและยังใช้เวลาในการตัดนานด้วยเช่นกัน แต่ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อหันมาใช้รถตัดอ้อย เพราะรถตัดอ้อยมีการทำงานที่รวดเร็ว และได้คุณภาพที่เป็นมาตรฐาน
ข้อดีในการใช้รถตัดอ้อย
- โรงงานชอบต้นอ้อยที่ใช้รถตัดอ้อยตัด
- รถตัดอ้อยตัดได้รวดเร็วทันใจเจ้าของไร่อ้อย
- ต้นทุนการตัดโดยรถตัดอ้อยต่ำ
- ไม่ต้องเผาอ้อยก่อนตัด ทำให้หนอนกออ้อยไม่ระบาด
- สับใบ พวนดินอัดปุ๋ยไม่ยาก
- รถตัดอ้อยช่วยลดปัญหาการสร้างผลพิษทางอากาศ
- ลดการใช้แรงงานคน
- รถตัดอ้อยตัดอ้อยที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
สมควรลงทุนซื้อรถตัดอ้อยไหม ?
สำหรับชาวไร่อ้อย แอดมินคิดว่าเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะลงทุนซื้อรถตัดอ้อย เนื่องจากในปัจจุบันโลกเปลี่ยนผันไปจากเดิม มีเทคโนโลยีเข้ามามากขึ้น อีกทั้งสามารถทำให้ชาวไร่อ้อยทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น ย่นรถยะเวลาการทำงานให้กระชับมากขึ้น และยังช่วยให้ชาวไร่อ้อยตัดปัญหากับการหาคนงานตัดอ้อยได้อีกด้วย
สาระความรู้ทั้งหมดที่แอดมินนำเอามาฝากในวันนี้แอดมินหวังว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหารถตัดอ้อย หรือหาข้อมูลของรถตัดอ้อย หากคุณเป็นคนที่กำลังมองหารถตัดอ้อย หรือเครื่องมือจักรกลการเกษตรอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากรถตัดอ้อย Thai-A เราจำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตรในการราคาโรงงาน ไม่ว่าจะเป็น รถตัดอ้อย รถคีบไม้ รถคีบอ้อย รถคีบอเนกประสงค์ หรือหากต้องการคำปรึกษาเราก็มีทีมงานที่มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ชิ้นส่วนใดของรถตัดอ้อย MAX MH360 ที่ใช้ระบบไฟฟ้าและระบบไฮดรอลิค
- รีวิวรถตัดอ้อยรุ่น MAX CANE HARVESTER MH 360
- หลักการทำงานของรถตัดอ้อยไทยฉบับเข้าใจง่าย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
เตรียมไร่อ้อยยังไงให้รถตัดอ้อยทำงานง่าย
เตรียมไร่อ้อยยังไงให้รถตัดอ้อยทำงานง่าย ขั้นตอนการเก็บเกี่ยวอ้อยเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเกษตรกรชาวไร่อ้อย ปัจจุบันค่านิยมในการรับจ้างตัดอ้อยเริ่มลดน้อยลง จนทำให้มีเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามารองรับมากขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เจ้าของไร่อ้อยต้องทำการปรับตัวปรับเปลี่ยนการปลูกอ้อยให้รองรับกับเครื่องจักร ที่จะเข้ามาทำงานในไร่อ้อย เช่น รถตัดอ้อย รถคีบอ้อย วันนี้แอดมินเลยนำสาระความรู้เบื้องต้นในการเตรียมแปลงอ้อยให้พร้อมต่อการเก็บเกี่ยวโดยเครื่องจักรกลการเกษตร
ขั้นตอนการเตรียมแปลงอ้อยให้รถตัดอ้อยทำงานได้ง่ายมากขึ้น
- เตรียมแปลงอ้อยโดยการปรับพื้นที่ให้มีความสม่ำเสมอเพื่อรถตัดอ้อยได้จะได้เคลื่อนที่ได้ง่าย
- กำจัดตอไม้ ต้นไม้ ก้อนหิน สิ่งกรีดขวางต่าง ๆ ที่ขวางการทำงานรถตัดอ้อย
- กำหนดแนวร่องให้ยาวที่สุดเท่าที่ขนาดแปลงจะสามารถทำได้
- เว้นพื้นที่หัวร่องไว้ให้รถตัดอ้อยมีพื้นที่ได้กลับรถ หากไม่ทำการเว้นพื้นที่จะทำให้รถตัดอ้อยเหยียบย่ำตออ้อยได้
- เลือกปลูกพันธุ์อ้อยที่ท่อนอ้อยอยู่ลึกลงไป 20-25 เซนติเมตร
- เว้นระยะห่างระหว่างร่องอ้อยให้ได้ประมาณ 1.85 เมตร ตามขนาดมาตรฐานของรถตัดอ้อย
- ทำการยกร่องอ้อย หรือพูนโคนอ้อย ให้ต้นอ้อยอยู่บนสันร่องสูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร เพื่อให้ชิ้นส่วนของรถตัดอ้อยได้ตัดโคนอ้อยให้ชิดดินมากที่สุด โดยจะเก็บเกี่ยวโคนอ้อยเพราะเป็นส่วนที่หวานที่สุด และจะไม่ทำให้ตออ้อยแตก
หากชาวไร่อ้อยวินำธีนี้ไปใช้ แอดมินรับประกันว่าจะช่วยให้ชาวไร่อ้อยประหยัดเวลาไปได้มากแน่นอนนอกจากจะช่วยประหยัดเวลาแล้ว ยังทำให้รถตัดอ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ อีกประโยชน์ที่สำคัญของรถตัดอ้อยก็คือ ช่วยให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยลดการเผาอ้อย เพราะการเผาอ้อยจะก่อให้เกิดควัน และมลพิษทางอากาศที่ส่งผลเสียให้กับกลุ่มคนในบริเวณรอบข้างอีกด้วย
หากคุณสนใจรถตัดอ้อยที่มีคุณภาพดี ราคาเป็นมิตรกับเกษตรกรไร่อ้อยชาวไทย Thai-A เราเป็นตัวแทนจำหน่ายรถตัดอ้อยและผลิตรถตัดอ้อยรายใหญ่ที่ผลิตโรงงานในไทย โดยคนไทย และยังจำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตร เช่น รถคีบอ้อย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ หรือหากคุณต้องการคำแนะนำคำปรึกษา เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- วิธีการตรวจสอบระบบรถตัดอ้อยให้พร้อมใช้งาน
- การรักษาอุปกรณ์และเครื่องมือการเกษตรที่ใช้กับรถตัดอ้อย
- ปรับเขตแปลงอ้อยก่อนใช้รถตัดอ้อยดียังไง ?
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
วิธีการตรวจสอบระบบรถตัดอ้อยให้พร้อมใช้งาน
วิธีการตรวจสอบระบบรถตัดอ้อยให้พร้อมใช้งาน
ก่อนเริ่มต้นใช้งานรถตัดอ้อยควรตรวจเช็คระบบการทำงานของรถตัดอ้อยเสียก่อน ผู้ใช้งานจะได้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและเพื่อความสบายใจของผู้ใช้งาน หากผู้ใช้งานรถตัดอ้อยไม่ทำการตรวจเช็ครายละเอียดต่าง ๆ มักจะส่งผลให้ระบบอุปกรณ์เกิดความเสียหายได้ซึ่งจะนำในเรื่องการเสียเงินและเสียเวลาในภายหลัง
ขั้นตอนการตรวจสอบ
1. ตรวจสอบดูระดับน้ำมันว่าอยู่ในระดับที่พร้อมใช้งานหรือไม่ หลอดแก้ววัดระดับน้ำมันไฮดรอลิคที่ใช้ในตัวรถตัดอ้อย จะดุูว่าระดับของน้ำมันไฮดรอลิคอยู่ในรถดับที่เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งจะมีเส้นแบ่งเขตให้ได้ดูและตรวจสอบ
2. ตรวจสอบจุดหมุนต่างว่าติดขัดตรงใหนบ้าง ดูลูกปืนว่ามีการแตกจุดใหนบ้าง
3. ตรวจสอบ ลมยาง รถว่าอ่อนเกินไปหรือไม
4. ตรวจสอบความสกปรกภายในระบบกรอง อากาศของเครื่องยนต์ และระบบน้ำมันไฮดรอลิค
5. ตรวจสอบชุดโซ่ลำเลียงว่ามีการสึกหรหรือไม่ ชุดใบมีดสับ และโคนสับท่อนในรถตัดอ้อย
6. ระบบเครื่องยนต์ ไม้วัดระดับน้ำมันเครื่อง ว่าระดับน้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์เหมาะกับการทำงานหรือไม่ ซึ่งจะมีจุดสังเกตได้ว่าไม้วัดจะมีขีดระดับให้ได้ดูกัน ว่าระดับน้ำมันอยู่ในระดับใด
7. ระดับน้ำในหม้อน้ำที่ทำหน้าที่ระบายความร้อนของเครื่องยนต์ เบื้องต้นให้ตรวจสอบระดับน้ำว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่ ระดับน้ำจะต้องอยู่สูงกว่าเซนเซอร์ ประมาณ 3 นิ้ว ซึ่งตัวถังจะมีเซนเซอร์แจ้งเตือนระดับน้ำ
8. เมื่อตรวจสอบทั้ง 7 จุดแล้ว ลำดับที่ 8 ต้องทำการเปิดสวิสซ์รถตัดก่อน เพื่อตรวจสอบจุดที่ 8
ในการตรวจสอบจุดที่ 8 จะทำการตรวจสอบหน้าจอการทำงานในห้องขับขี่ ทำการเปิดสวิสซ์เครื่องยนต์หน้าจอจะทำการโหลดข้อมูลของเครื่องรถตัดอ้อยต่าง ๆ
- ตรวจสอบระดับน้ำมันเชื้อเพลิงว่าเหลือกี่เปอร์เซ็น
- ตรวจสอบแรงดันของแบตเตอรี่ว่าเหลือเท่าใด
- ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ ดูอุณหภูมิน้ำมันไฮดรอลิคว่าอยู่ที่เท่าใด ถ้าอุณหภูมิไม่ถึง 45 องศา ระบบการทำงานจะทำงานแค่ระบบขับเคลื่อน แต่ถ้าอุณหภูมิถึง 45 องศาแล้ว จะสามารถเปิดระบบการทำงานต่าง ๆ ได้
- หลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์รถตัดอ้อยให้ดูแรงดันน้ำมันเครื่องว่าแรงดันขึ้นหรือไม่
- ดูรอบความเร็วของเครื่องยนต์ ซึ่งจะตั้งที่ 800 รอบต่อนาที
- แรงดันไฟฟ้าในแบตเตอรี่ หากไดร์ชาร์จทำงานปกติ แรงดันไฟฟ้าจะขึ้นอยู่ที่ 13.7 โวล
9. ฟังก์ชั่นที่ทดสอบระบบเคลื่อนไหว
- โยกคอนโทรล ตัวการทำงานของเกลียวอ้อยด้านซ้าย ด้านขวา
- โยกคอนโทรล ตัวการทำงานของการการทำงานขึ้นลงสะพาน
- โยกคอนโทรล ตัวการทำงานของการยกตัวรถตัดอ้อย
- โยกคอนโทรล ตัวการทำงานของการเบนหาง
- โยกคอนโทรล ตัวการตัดยอดอ้อย
- หมุนพวงมาลัย ตัวการทำงานของการเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา
- กดสวิทช์ไฟ ตัวการทำงานของการทำงานสะพาน
- กดสวิทช์ไฟ ตัวการทำงานของการทำงานสับท่อน
- กดสวิทช์ไฟ ตัวการทำงานของการทำงานตัดโคน
- กดสวิทช์ไฟ ตัวการทำงานของการทำงานระบบไฟฟ้า
การตรวจเช็คระบบรถตัดอ้อยก่อนใช้งานเป็นผลดีกับรถตัดอ้อยและเป็นผลดีต่อตัวผู้ใช้งานเสมอ เพราะจะไม่ทำให้เกิดอุบัติเหตุและผลเสียต่อการใช้งาน หากคุณกำลังมองหาโรงงานผลิตรถตัดอ้อย ผลิตรถตัดอ้อยรายใหญ่ โรงงานชิ้นส่วนรถตัดอ้อย Thai-A เราพร้อมให้บริการและพร้อมให้คำปรึกษาในเรื่องรถตัดอ้อยแบบครบวงจร
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ชิ้นส่วนใดของรถตัดอ้อย MAX MH360 ที่ใช้ระบบไฟฟ้าและระบบไฮดรอลิค
- การรักษาอุปกรณ์และเครื่องมือการเกษตรที่ใช้กับรถตัดอ้อย
- ปรับเขตแปลงอ้อยก่อนใช้รถตัดอ้อยดียังไง ?
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
ชิ้นส่วนใดของรถตัดอ้อย MAX MH360 ที่ใช้ระบบไฟฟ้าและระบบไฮดรอลิค
ชิ้นส่วนใดของรถตัดอ้อย MAX MH360 ที่ใช้ระบบไฟฟ้าและระบบไฮดรอลิค
วันนี้แอดมินจะมาจำแนกชิ้นส่วนในรถตัดอ้อยว่าชิ้นส่วนใดใช้ระบบไฟฟ้าและชิ้นส่วนใดใช้ระบบไฮดรอลิค เพราะเมื่อรถตัดอ้อยของคุณเกิดมีปัญหาแล้วคุณจะได้นำรถตัดอ้อยของคุณไปพบช่างถูก เพื่อลดการเสียเวลาและเสียเงินที่ซ้ำซ้อน
1. Electrical / ระบบไฟฟ้าในรถตัดอ้อย
- Battery 24 volts แบตเตอรี่ 24 โวล์ท
- Control system with switches ระบบควบคุมการทำงานด้วยสวิตซ์
- Idling automatic system ระบบควบคุมการทำงานเดินเครื่องรอบเบาแบบอัตโนมัติ
- LED headlights ชุดไฟหน้าให้ความสว่างและประหยัดพลังงาน
- Main switch breaker สวิตซ์เบรกเกอร์ตัดระบบไฟฟ้า
- LED spotlights ชุดไฟสปอตไลท์แอลอีดีส่องสว่างรอบตัวรถตัดอ้อยและประหยัดพลังงาน
- Diagnostic engine system ระบบแจ้งเตือนอาการผิดปกติของเครื่องยนต์รถตัดอ้อย
- Fuse panel and breaker แผงฟิวส์และเซอร์กิตเบรกเกอร์ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
2. Hydraulic System / ระบบไฮดรอลิครถตัดอ้อย
- All the oil is filtered before returning to the tank ระบบน้ำมันไฮดรอลิคทั้งหมดจะผ่านการกรองก่อนกลับคืนถังพัก
- Combination filter การรวมชุดไส้กรองไฮดรอลิค
- Hydraulic block valve บล็อกวาล์วบล็อคไฮดรอลิค
Primary Extractor / ชุดพัดลมใหญ่เป่าใบอ้อย
– Hydraulic drive ขับเคลื่อนด้วยไฮดรอลิค
– Speed adjustable สามารถปรับความเร็วรอบพัดลมได้
– Hydraulically driven hood slew สามารถหันทิศทางปากปล่องได้
– Propeller of four blades ใช้ใบพัดลมใหญ่จำนวน 3 ใบ
Secondary Extractor / ชุดพัดลมเล็กเป่าใบอ้อย
– Hydraulic drive ขับเคลื่อนด้วยไฮดรอลิค
– Speed adjustable สามารถปรับความเร็วรอบพัดลมได้
– Propeller of three blades ใช้ใบพัดลมใหญ่จำนวน 3 ใบ
– Hydraulically driven hood to turn around 360 degree สามารถหันทิศทางปากปล่องได้รอบ 360 องศา
Elevator / ชุดสะพานลำเลียงท่อนอ้อย
– Hydraulic drive ขับเคลื่อนด้วยไฮดรอลิค
– Total turning angle 175 degree องศาในการเบนสะพาน รวม 175 องศา
– Adjustable loading flap มีแผ่นบังคับทิศทางการโรยท่อนอ้อยใส่รถบรรทุก
หากคุณกำลังมองหาบริษัทผลิตและจำหน่ายรถตัดอ้อยรายใหญ่ โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถตัดอ้อย ตัวแทนจำหน่ายรถตัดอ้อยรายใหญ่ประเทศไทย โรงงานอะไหล่รถตัดอ้อย รับซ่อมรถตัดอ้อยรายใหญ่ รถตัดอ้อย ผลิตรถคีบไม้ โรงงานรถคีบไม้ Thai-A เราพร้อมให้บริการกับคุณด้วยความยินดีจากผู้เชี่ยวชาญในเครื่องจักรกลการเกษตร ที่มีประสบการณ์ทำงานมากกว่า 50 ปี ไว้คอยให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่คุณ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- รีวิวรถตัดอ้อยรุ่น MAX CANE HARVESTER MH 360
- การรักษาอุปกรณ์และเครื่องมือการเกษตรที่ใช้กับรถตัดอ้อย
- ปัญหาเกียร์ปั๊มกับมอเตอร์ในรถตัดอ้อย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency
รีวิวรถตัดอ้อยรุ่น MAX CANE HARVESTER MH 360
รีวิวรถตัดอ้อยรุ่น MAX CANE HARVESTER MH 360
ปัจจุบันรถตัดอ้อยที่เกษตรกรที่ปลูกไร่อ้อยเลือกใช้มีหลากหลายแบรนด์ มีทั้งที่ผลิตต่างประเทศและภายในประเทศไทย วันนี้แอดมินจะมารีวิวรถตัดอ้อย MAX CANE HARVESTER MH360 ที่ผลิตในประเทศไทย ฝีมือโดยคนไทย ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถทำงานได้ในทุกสภาพภูมิประเทศ
สเปครถตัดอ้อย MAX CANE HARVESTER MH360
1. ระบบเดินล้อ ปั๊มคู่ มอเตอร์
2. ดุมล้อ Power Wheel แบบ Planetary Gear Drive มีความแข็งแรง ทนทาน รองรับแรงบิดได้สูง พร้อมทั้งมีระบบ Parking Brake ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
3. ล้อหน้าขนาด 11L-16 12ชั้น ล้อหลังขนาด 20.5-25 20 ชั้น
4. ชุดสะพานลำเลียงอ้อยสามารถปรับได้หลายรูปแบบ
5. ชุดตัดท่อนที่ใหญ่ด้วยระบบมอเตอร์ไฮดรอลิค ระบบส่งกำลัง Motor Char-Lynn 6000 Series จำนวนใบตัด 6 ใบ ขนาดท่อนอ้อยที่ได้ขนาด 7-8 นิ้ว
6. มีตะแกรงเหล็กด้านหน้าที่แข็งแรง ทนทาน เพื่อความปลอดภัยของตัวรถตัดอ้อยและผู้ใช้งาน
7. สะพายลำเลียงอ้อยมีความกว้าง 80 CM.ความสูงการโรยอ้อย 460 CM. ระบบขับเคลื่อน Motor Char-Lynn 2000 Series
8. โรลเลอร์ ระบบส่งกำลัง Char-Lynn 2000 Series
9. สายไฮดรอลิคจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ง่ายต่อการบำรุงรักษา
10. ห้องคนขับประกอบด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกด้วยระบบไฟฟ้า เช่น มาตรวัดค่าต่าง ๆ กระจกหน้ารถขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน
11. ความยาวของรถตัดอ้อย 10,715 mm. ความสูงของหาง 4,963 mm. ความกว้างของตัวรถ 2,400 mm. น้ำหนักรวม 11.5 ตัน
12. ระบบขับเคลื่อนตัวรถขับเคลื่อนด้วยระบบ Hydrostatic
13. ความจุถุงน้ำมันดีเซล 450 ลิตร ความจุถังน้ำมันไฮดรอลิค 600 ลิตร
14. เครื่องยนต์ดีเซล 360HP ให้กำลัง 360 แรงม้า @2200 RPM
15. ระบบมอเตอร์ Char-Lynn Motor มีทั้งแบบสปูลวาล์ว และแบบดิสวาล์ว มีความแข็งแรง ทนทาน ความจุในขนาดที่เป็นมอเตอร์ตัวเล็ก
16. ติดตั้งเกียร์ท้ายเครื่องยนต์จากประเทศอิตาลี เพื่อเพิ่มกำลังส่งไปยังปั๊มไฮดรอลิคเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน
หลักงานทำงานของรถตัดอ้อย MAX CANE HARVESTER MH360
1. การทำงานเริ่มจากส่วนหน้า จะมีตัวตัดยอดอ้อยโดยใช้เกลียวรวบอ้อยที่ล้ม ให้เข้ามาที่ส่วนกลางรถตัดอ้อย โดยมีชุดตัดโคนอ้อยและมีชุดลำเลียงดึงอ้อยผ่านชุดลูกกลิ้งด้านล่าง
2. อ้อยจะถูกส่งมาสู่ชุดตัดท่อนและส่งต่อมายังชุดสะพานลำเลียง
3. พัดลมด้านหลังจะทำการเป่าใบที่มีน้ำหนักเบาออกด้านหลังส่วนท่อนอ้อยจะถูกลำเลียงโดยชุดสะพานลำเลียงสู้รถบรรทุก
ระยะเวลาการรับประกันรถตัดอ้อย MAX CANE HARVESTER MH360
- ปีที่ 1 รับประกันชิ้นส่วน อะไหล่ ระยะเวลา 1 ปี
- ปีที่ 2 ให้บริการตรวจเช็คฟรี ไม่มีค่าแรง
หากคุณกำลังมองหารถตัดอ้อยราคาโรงงาน โรงงานผลิตรถตัดอ้อย โรงงานผลิตรถตัดอ้อยรายใหญ่ในไทย ผลิตอะไหล่รถตัดอ้อย รถคีบอ้อย รถคีบไม้ รถคีบอเนกประสงค์ อะไหล่เครื่องจักรกลการเกษตรทุกชนิด Thai-A เราเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรายใหญ่ในประเทศไทย ที่ผลิตได้มาตรฐานสากลรองรับ หรือหากต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับเครื่องจักรกลการเกษตร เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 50 ปี คอยให้คำแนะนำแก่คุณ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency